Surachet Jingjit

I love art. After I graduated from Poh-Chang Academy of Arts, I started working as the ice sculpter in  the hotel in Bangkok, Thailand. In the meantime, I was chosen as a representative to compete in  World Ice Sculpture at Japan, and won Gold Medal. 

I came to USA in 2004 because I want to learn more about art and want to proof that people around  the world understand my art. But life in America is not easy, I have to work in the restaurant to  support myself. My day off will be the day that I can practice, I go everywhere in LA that I can, to  draw, to paint, to show my art to people.  

Since the first day in the state, I never stop doing it. Every day I still draw, it is a part of my life. 

 

เราเป็นคนชอบงานด้านศิลปะอยู่แล้ว หลังจากได้ศึกษาจบที่ รร.เพาะช่าง ก็ได้เริ่มงานด้านศิลปะ ในการแกะสลักน้ำแข็งให้โรงแรมที่กรุงเทพมากว่า 20 ปี และในระหว่างนั้นได้มีการรับสมัครเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น ผลปรากฏว่าได้ผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน และได้รางวัลเหรียญทองชนะเลิศกลับมา ถือได้ว่า เป็นความภาคกูมิใจที่สุดของชีวิต หลังจากนั้นก็มี ความมุ่งมั่นมากขึ้นในการที่จะเดินทางด้านสายอาชีพศิลปะ แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเราได้มาอเมริกา น่าจะตอบโจทย์มากกว่า เราอาจจะเติบโตเป็นที่รู้จักมากขึ้น และอยากจะแสดงความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จนในช่วงปี 2004 ได้มาอเมริกาครั้งแรก แต่ลงหลักปักฐานอยู่ที่ ฟลอริด้าอยู่ช่วงนึง โดยเริ่มทำงานที่ ร้านอาหารไทยในฟลอริด้าก่อน แต่ทางด้านฝั่งนั้น งานศิลปะไม่ค่อยจะมากเท่ากับทางแอลเอเลยย้ายมาอยู่แอลเอ การย้ายชีวิตมาอยู่ต่างประเทศเชื่อว่าทุกคนต้องดิ้นรน ทุกคนต้องทำงาน เลี้ยงครอบครัว แต่เราไม่สามารถทิ้ง งานศิลปะที่เรารักได้ ระหว่างนั้นก็ได้วาดชิ้นงานของเรา เก็บไว้ขาย แต่ก็ยังขายไม่ค่อยได้ เพราะเรายังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ด้วยใจรักและมุ่งมั่น ต้องทำงานในครัวไปด้วย โดยปันเงินส่วนหนึ่ง ไปซื้ออุปกรณ์และในช่วงวันหยุดก็จะไปวาดรูปตามที่ต่างๆ ในแอลเอโดยงานชิ้นแรกที่ขายได้ คืองานรูปวาดถนน และ ปลาคาร์ฟ 

จากวันแรกในอเมริกา จนถึงวันนี้ เกือบ 20 ปีแล้ว แต่เราก็ยังคงตระเวนวาดรูปไปในที่ต่างๆ ทุกๆวัน เหมือนกับว่า เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว